แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543
********************************
1. พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 ให้ไว้ ณ วันใด
ก. 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 ค. 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2543
ข. 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 ง. 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2543
ตอบ ง. 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2543
2. พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543ใช้บังคับได้เมื่อพ้นกำหนดกี่วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ก. 30 วัน ค. 60 วัน
ข. 90 วัน ง. 180 วัน
ตอบ ข. 90 วัน
3. พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 มีกี่หมวด กี่มาตรา
ก. 4 หมวด 50 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ค. 5 หมวด 50 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ข. 4 หมวด 45 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ง. 5 หมวด 45 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ง. 5 หมวด 45 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
4. หน่วยงานใดเป็นสำนักงานกลางบัญชี
ก. กรมการค้าภายใน ค. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ข. กรมบัญชีกลาง ง. กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ตอบ ค. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
มาตรา ๖ ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า* กระทรวงพาณิชย์ เป็นสำนักงานกลางบัญชี
5. หัวหน้าสำนักงานบัญชีประจำท้องที่คือใคร
ก. สารวัตรบัญชี ค. สารวัตรใหญ่บัญชี
ข. อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ง. ผู้ทำบัญชี
ตอบ ก. สารวัตรบัญชี
ให้อธิบดีมีอำนาจจัดตั้งสำนักงานบัญชีประจำท้องที่ โดยขึ้นตรงต่อสำนักงานกลางบัญชี และมีสารวัตรบัญชีคนหนึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานบัญชีประจำท้องที่
6. อธิบดีมีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเรื่องใด
ก. ข้อความและรายการที่ต้องมีในบัญชี ค. ชนิดของบัญชีที่ต้องจัดทำ
ข. ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชี ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๗ อธิบดีมีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดในเรื่อง ดังต่อไปนี้
(๑) ชนิดของบัญชีที่ต้องจัดทำ
(๒) ข้อความและรายการที่ต้องมีในบัญชี
(๓) ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชี
(๔) เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี
(๕) กำหนดข้อยกเว้นให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีหรือผู้ทำบัญชีไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง
(๖) คุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีตามพระราชบัญญัตินี้
7. ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีคือใคร
ก. นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
ข. กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
ค. ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๘ ให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร เป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี และต้องจัดให้มีการทำบัญชีสำหรับการประกอบธุรกิจของตนโดยมีรายละเอียด หลักเกณฑ์ และวิธีการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
8. ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องจัดให้มีการทำบัญชีนับแต่วันใด
ก. เริ่มทำบัญชี ค. เริ่มทำบัญชีมาแล้ว 3 วัน
ข. เริ่มทำบัญชีมาแล้ว 1 เดือน ง. วันใดก็ได้
มาตรา ๙ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องจัดให้มีการทำบัญชีนับแต่วันเริ่มทำบัญชี ดังต่อไปนี้เป็นต้นไป
(๑) ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้เริ่มทำบัญชีนับแต่วันที่ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดนั้น ได้รับการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
(๒) นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ให้เริ่มทำบัญชีนับแต่วันที่นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศนั้นได้เริ่มต้นประกอบธุรกิจในประเทศไทย
(๓) กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร ให้เริ่มทำบัญชีนับแต่วันที่กิจการร่วมค้านั้นได้เริ่มต้นประกอบกิจการ
(๔) สถานที่ประกอบธุรกิจเป็นประจำตามมาตรา ๘ วรรคสอง ให้เริ่มทำบัญชีนับแต่วันที่สถานที่ประกอบธุรกิจเป็นประจำนั้นเริ่มต้นประกอบกิจการ
9. ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องปิดบัญชีครั้งแรกภายในกี่เดือน
ก. 6 เดือน ค. 10 เดือน
ข. 12 เดือน ง. 8 เดือน
มาตรา ๑๐ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องปิดบัญชีครั้งแรกภายในสิบสองเดือนนับแต่วันเริ่มทำบัญชีที่กำหนดตามมาตรา ๘ วรรคหก หรือวันเริ่มทำบัญชีตามมาตรา ๙ แล้วแต่กรณี และปิดบัญชีทุกรอบสิบสองเดือนนับแต่วันปิดบัญชีครั้งก่อน เว้นแต่
(๑) เมื่อได้รับอนุญาตจากสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีให้เปลี่ยนรอบปีบัญชีแล้วอาจปิดบัญชีก่อนครบรอบสิบสองเดือนได้
(๒) ในกรณีมีหน้าที่จัดทำบัญชีตามมาตรา ๘ วรรคสอง ให้ปิดบัญชีพร้อมกับสำนักงานใหญ่
10. ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากรต้องจัดทำงบการเงินและยื่นงบการเงินดังกล่าวต่อสำนักงานกลางบัญชีหรือสำนักงานบัญชีประจำท้องที่ภายในกี่เดือน
ก. 10 เดือน ค. 1 เดือน
ข. 8 เดือน ง. 5 เดือน
ตอบ ง. 5 เดือน
ไฟล์ราคา 389 เพิ่ม 100 บาท แถมฟรี ชุดติวสอบ ภาค ก แบบเข้าใจง่าย
หนังสือราคา 789 บวก แถมฟรี MP3บรรยาย และโปรแกรมฝึกทำข้อสอบ ภาค ก
>รวบรวมจากผู้สอบติดอันดับต้นๆ เจาะข้อสอบเข้างานราชการ <<
>> (Book) สรุปสาระสำคัญ อ่านกระชับเวลา ไม่สับสน เข้าใจง่าย ออกชัวร์ๆ แม่นยำ <<
>> (New) รวบรวมจากรุ่นพี่ที่สอบได้อันดับต้นๆ+เจาะลึกตรงประเด็น เก็งข้อสอบ <<
>> (Pdf) แนวข้อสอบพร้อมเฉลย+เนื้อหาสรุปเรียบร้อย ประหยัดเวลาในการอ่าน <<
แนวข้อสอบวิชาการสอบบัญชี
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. บริษัท กขค จำกัด มีสินทรัพย์ 28,000 บาท มีหนี้สิน 10,000 บาท และมีทุนเรือนหุ้น 7,000 บาท ยอดคงเหลือ
ในบัญชีกำไรสะสมเท่ากับ.........บาท ?
ก. 31,000 ข. 17,000
ค. 25,000 ง. 11,000
ตอบข้อ ง. คำนวณประกอบ
จากสมการบัญชี :- สินทรัพย์รวม = หนี้รวม + ส่วนของเจ้าของ
28,000 = 10,000 + ส่วนของเจ้าของ
\ ส่วนของเจ้าของ = 28,000 - 10,000 บาท
= 18,000 บาท
ส่วนของเจ้าของ = ทุนเรือนหุ้น + กำไรสะสม
18,000 = 7,000 + 11,000
2. ระหว่างปีที่ผ่านมาบริษัทบุญมา จำกัด มีรายการสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 2,000 บาท รายการหนี้สินลดลง 1,000 บาท รายการทุนเรือนหุ้นเพิ่มขึ้น 2,000 บาท และมีกำไรสุทธิประจำปี 3,000 บาท กิจการจ่ายเงินปันผล เท่ากับ........บาท ?
ก. 1,000 ข. 2,000
ค. 3,000 ง. 4,000
ตอบข้อ ข. คำนวณประกอบ
จากสมการบัญชี :- สินทรัพย์รวม = หนี้รวม + ส่วนของเจ้าของ
\ ส่วนของเจ้าของ = หนี้สินลด (Dr.) + ทุนเรือนหุ้นเพิ่ม (Cr.)
+ กำไรสุทธิ (Cr.) – จ่ายเงินปันผล (Dr.)
จ่ายเงินปันผล = ทุนเรือนหุ้นเพิ่ม (Cr.) + กำไรสุทธิ (Cr.)
- หนี้สินลดลง (Dr.) – สินทรัพย์เพิ่ม (Dr.)
= 2,000 + 3,000 – 1,000 – 2,000 บาท
= 2,000 บาท
3. บริษัทสหภัณฑ์ จำกัด มีหนี้สิน 40,000 บาท กำไรสะสม 20,000 บาท และเงินทุนจดทะเบียน 15,000 บาท
กิจการนี้มีสินทรัพย์เป็นจำนวน ............. บาท
ก. 35,000 ข. 45,000
ค. 55,000 ง. 75,000
ตอบข้อ ง. คำนวณประกอบ
จากสมการบัญชี :- สินทรัพย์รวม = หนี้รวม + ส่วนของเจ้าของ
= 40,000 + (15,000 + 20,000)
= 75,000 บาท
4. บริษัท มานาน จำกัด บันทึกรายได้จากการขายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่บริษัทจะไม่รับการจ่ายชำระเงิน จนกว่าจะถึงปีหน้า การปฏิบัติเช่นนี้เป็นตัวอย่างของ
ก. Clash Basis Accounting ข. Accrual Accounting
ค. Historical Costing ง. Improper Recognition
ตอบข้อ ข. ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ
5. บริษัท การเวก จำกัด ซื้อที่ดินเมื่อ 2 ปีที่แล้วในราคา 100,000 บาท เมื่อเร็วๆ นี้กิจการได้รับข้อเสนอขาย
ที่ดินแปลงนี้ในราคา 125,000 บาท และขณะนี้ที่ดินมีราคาประเมินเป็นเงิน 140,000 บาท มูลค่าประเมิน
เพื่อเสียภาษีทรัพย์สินเท่ากับ 85,000 บาท บริษัทควรจะแสดงมูลค่าของที่ดินในงบการเงินเป็นจำนวน
เท่าไร
ก. 100,000 ข. 125,000
ค. 140,000 ง. 85,000
ตอบข้อ ก. การบันทึกรายการสินทรัพย์และหนี้สินถือเกณฑ์ราคาต้นทุน ซึ่งหมายถึงราคาที่เกิดขึ้น
จากการซื้อขายที่คำนวณได้อย่างมีหลักเกณฑ์ โดยไม่ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของคนใดคนหนึ่ง
มีหลักฐานประกอบการบันทึกบัญชีเป็นหลักฐานที่เชื่อถือและเป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทุกฝ่ายเป็นการปฏิบัติโดยถือหลักราคาทุน (Cost Concept) ซึ่งมีความสัมพันธ์หลัก
ความดำรงอยู่ของกิจการ (Going Concept) และหลักการใช้หลักการอันเที่ยงธรรม
(Materiality)
6. การคิดต้นทุนของสินทรัพย์ตามงวดบัญชีได้รับประโยชน์จากการใช้สินทรัพย์นั้นเป็นตัวอย่างของหลักการ
ก. Conservatism ข. Matching
ค. Materiality ง. Allocation
ตอบข้อ ข. หลักการจับคู่ค่าใช้จ่ายกับรายได้ (Matching) จะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการหาผลการดำเนินงานของกิจการ โดยการบันทึกรายได้ตามหลักการเกิดขึ้นของรายได้ (Revenue Recognition) และหลักเงินค้าง (The Accrual Basis) ของงวดบัญชีนั้น แล้วจึงนำค่าใช้จ่ายที่ทำให้เกิดรายได้หรือผลประโยชน์ขึ้นมาจับคู่ และถือเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีนั้นๆ ด้วย
7. บริษัท ไทยรุ่งเรือง จำกัด มีส่วนของเจ้าของจำนวน 42,000 บาท ณ วันต้นงวด และจำนวน 46,000 บาท
ณ วันปลายงวด ผู้ถือหุ้นลงทุน 5,000 บาท ในระหว่างงวด และมีการประกาศและจ่ายเงินปันผล 2,000 บาท
กำไรสุทธิประจำปีเท่ากับ
ก. 4,000 ข. 2,000
ค. 3,000 ง. 1,000
ตอบข้อ ง. คำนวณประกอบ
ส่วนของเจ้าของ ณ วันปลายงวด 4,600 บาท
บวก จ่ายเงินปันผล 2,000 บาท
48,000 บาท
หัก ส่วนของเจ้าของ ณ วันต้นงวด 42,000
ลงทุนเพิ่ม 5,000 47,000 บาท
\ กำไรสุทธิประจำปี 1,000 บาท
8. รายการทางบัญชีรายการใดมีความสำคัญหรือไม่มีความสำคัญต่อการรายงานในงบการเงินเกี่ยวข้องกับ
หลักการ
ก. Conservatism ข. Materiality
ค. Comprehensiveness ง. Periodicity
ตอบข้อ ข. หลักการมีนัยสำคัญ (Materiality) คือ งบการเงินควรเปิดเผยข้อมูลที่มีนัยสำคัญซึ่งมีผลต่อ
การตัดสินใจของผู้ใช้ ทั้งนี้เพื่อผู้ใช้จะได้เข้าใจโดยถูกต้องถึงผลการดำเนินงานฐานะการเงิน
และการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญ หมายถึง เหตุการณ์
ซึ่งถ้าหากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีโอกาสรับทราบแล้ว อาจตัดสินใจผิดไปจากกรณีที่รับทราบ
9. การคิดต้นทุนที่เกิดขึ้นเพื่อก่อให้เกิดรายได้สำหรับงวดบัญชีเดียวกันที่มีรายงานได้เป็นตัวอย่างของหลักการ
ก. Conservatism ข. Matching
ค. Materiality ง. Stewardship
ตอบข้อ ข. ดูคำอธิบายข้อ 6 ประกอบ
10. การไหลข้าวของทรัพยากร เนื่องจากความพยายามที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ เรียกว่า
ก. Asset ข. Liability
ค. Revenue ง. Expense
ตอบข้อ ค. Revenue